วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

คุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิ์สอบใบขับขี่

คุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิ์สอบใบขับขี่

         1. ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ผู้สอบใบขับขี่ ต้องมีอายุ 15 ปี ขึ้นไป

         2. ใบขับขี่รถยนต์ ผู้สอบใบขับขี่ ต้องมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป

         3. ไม่เป็นผู้พิการทางสายตา (ตาบอด)

         4. ไม่มีอาการตาบอดสี

         5. สำหรับผู้พิการดังต่อไปนี้ ถ้าต้องการทำใบขับขี่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อรับคำปรึกษา

              ผู้พิการแขนขาดข้างเดียว
              ผู้พิการขาขาดข้างเดียว
              ผู้พิการตาบอดข้างเดียว
              ลำตัวพิการ
              หูหนวก

เอกสารในการยื่นขอสอบใบขับขี่

         1. บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา

         2. กรณีไม่มีบัตรประชาชน ให้ใช้บัตรข้าราชการ หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่ใช้แทน พร้อมสำเนา

         3. ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน

         4. สำเนาทะเบียนบ้าน

         5. ขอใบขับขี่แบบสมาร์ทการ์ด ไม่ต้องใช้รูปถ่าย

         6. ขอใบขับขี่แบบธรรมดา ใช้รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 2 ใบ มีอายุไม่เกิน 6 เดือน

ขั้นตอนในการขอสอบใบขับขี่

         1. รับบัตรคิวสอบใบขับขี่ ได้ที่กรมการขนส่งทางบกใกล้บ้านท่าน

         2. นำเอกสารที่เตรียมมายื่นต่อเจ้าหน้าที่

         3. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ดังนี้

              ทดสอบตาบอดสี โดยให้เรียกชื่อสีหลังจากเห็นสัญญาณไฟจราจรจำลอง

              ทดสอบสายตาทางลึก โดยการกดปุ่มเลื่อนเสา 2 เสา ให้อยู่ตำแหน่งตรงกัน

              ทดสอบสายตาทางกว้าง เป็นการทดสอบการมองกระจกข้าง โดยการจ้องที่จุดสีตรงกลาง แล้วมีสีต่าง ๆ ขึ้นมาให้เห็นทางหางตาทั้งสองข้าง ให้ตอบให้ถูกต้องว่าสีที่หางตาคือสีอะไร

              ทดสอบการใช้เท้า โดยการเหยียบคันเร่ง แล้วเหยียบเบรกหลังเห็นสัญญาณไฟแดง ต้องผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3 ครั้ง

         4. อบรมทฤษฎีการขับขี่รถยนต์ การอ่านป้ายจราจรต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

         5. สอบข้อเขียนเกี่ยวกับทฤษฎีในการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีเวลา 1 ชั่วโมง ข้อสอบจำนวน 30 ข้อ ผู้สอบใบขับขี่รถยนต์ต้องตอบถูก 23 ข้อขึ้นไป ส่วนผู้สอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ต้องตอบถูก 24 ข้อขึ้นไป ทำในคอมพิวเตอร์ รู้ผลทันที และให้กลับบ้านได้ โดยให้มาสอบปฏิบัติใหม่ในวันรุ่งขึ้น

         6. วันต่อมา ให้มารับบัตรคิวสอบปฏิบัติการขับขี่ ฟังการสาธิตการสอบ หากนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไปเองให้นำไปจอดรอใกล้ ๆ สนามสอบ หากไม่มี ให้ทำเรื่องเช่ารถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ได้

ขั้นตอนการสอบปฏิบัติรถยนต์

         1. การขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า

              ด้านซ้ายของรถต้องจอดขนานกับขอบทาง มีระยะห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร
              ด้านหน้าของรถต้องไม่ล้ำเกินจุดหยุดรถข้างทาง และมีระยะห่างไม่เกิน 1 เมตร
              ห้ามขับปีนทางเท้าหรือขอบทาง

         2. การขับรถเดินหน้าและถอยหลังทางตรง มีการทดสอบให้เลือก 2 แบบ

              แบบที่ 1 ขับเดินหน้าและถอยหลังออก ในช่องเดินรถที่มีความยาวประมาณ 10-12 เมตร มีหลักวางขนานกัน 2 แถว ระยะห่างวัดจากความกว้างของตัวรถบวกเพิ่มไปอีกข้างละ 50 เซนติเมตร ห้ามชนหรือขับเบียดหลักที่วางไว้

              แบบที่ 2 ขับเดินหน้าและถอยหลัง ในช่องที่กำหนดให้ มีขนาดกว้าง 2.5 เมตร โดยล้อรถต้องไม่ทับเส้น และห้ามชน หรือปีนขอบทาง

         3. การขับรถถอยหลังเข้าซอง

              เปลี่ยนเกียร์เดินหน้า และถอยหลังรวมกันได้ไม่เกิน 7 ครั้ง
              ท้ายรถต้องตั้งฉากกับขอบทาง ไม่ปีนหรือไม่ตกขอบทาง

         4. การหยุดรถและออกรถบนทางลาด

              โดยให้ขับรถขึ้นทางลาด แล้วเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ โดยไม่ไหลลงจากทางลาด จากนั้นให้เดินหน้าเพื่อออกรถ

         5. การกลับรถ

              ให้กลับรถในช่องที่กำหนด โดยไม่เบียดหรือชนหลักที่ตั้งเอาไว้

         6. การขับรถตามเครื่องหมายจราจร

              ขับรถไปตามช่องทางที่กำหนด เมื่อเจอป้ายจราจรให้ปฏิบัติตามป้าย ห้ามลืมเปิดไฟเลี้ยวและให้สัญญาณไฟให้ถูกต้องทุกครั้ง

         7. เมื่อผ่านขั้นตอนทั้งหมดแล้ว ให้เดินกลับมารับผลการสอบใบขับขี่และไปยื่นขอทำใบขับขี่รถยนต์ได้เลย


ขั้นตอนการสอบปฏิบัติรถจักรยานยนต์

         1. การเดินหน้าและหยุดรถ

              การออกรถต้องซ้าย ขวา และด้านหลังก่อนทุกครั้ง การหยุดรถต้องจอดให้สนิทและเอาขาซ้ายลงวางกับพื้น

         2. การขี่รถซิกแซก

              ให้ขี่รถซิกแซกผ่านกรวยสีส้มที่วางอยู่ประมาณ 5 อัน โดยไม่ชน หรือทำกรวยล้ม

         3. การทรงตัวบนทางแคบ

              ให้ขี่รถบนแท่นปูนซีเมนต์ หรือสะพานไม้แคบ ๆ กว้างประมาณ 30 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3 เมตร ให้ขี่ทรงตัวไปจนสุดทาง

         4. การอ่านป้ายและทำตามกฎจราจร

              เมื่อขี่รถและพบทางแยก ให้เปิดไฟเลี้ยว และเลี้ยวไปตามที่ป้ายจราจรบอกไว้ พบทางม้าลายให้จอดให้คนเดินข้าม โดยหยุดรถให้สนิท

         5. เมื่อสอบปฎิบัติเสร็จแล้ว ให้ไปยื่นขอทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เลย

การต่ออายุใบขับขี่

         สำหรับใครที่ใบขับขี่หมดอายุ การต่อใบขับขี่ในปัจจุบัน ต้องเข้าฟังการอบรมประมาณ 2 ชั่วโมง เตรียมเอกสารให้พร้อม แล้วไปยื่นขอต่อใบขับขี่กับเจ้าหน้าที่ โดยหากใบขับขี่ขาดการต่ออายุไม่เกิน 1ปี ให้เข้าฟังอบรม ทดสอบสมรรถภาพ และสอบข้อเขียนใหม่ หากใบขับขี่ขาดการต่ออายุเกิน 3 ปี จะต้องสอบใบขับขี่ใหม่ทั้งหมด

เอกสารในการต่อใบขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ 

         1. บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา

         2. ใบขับขี่ใบเดิมที่หมดอายุ

         3. ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน

         4.  หากมีการย้ายทะเบียนบ้าน ให้นำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับใหม่ไปด้วย

ขั้นตอนในการต่อใบขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ 

         1. ยื่นเอกสารขอต่อใบขับขี่

         2. เข้าฟังการอบรม

         3. ทดสอบสมรรถนะทางร่างกาย

         4. ถ่ายรูป

         5. ชำระค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่รถยนต์ 605 บาท หรือ ค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 355 บาท และรอรับใบขับขี่ใหม่ได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น